ชัดเจน!!!ฟังรองอธิบดีอัยการวิเคราะห์คดี7โจ๋ฆ่าชายพิการ บทสรุปว่าตร.ช่วยผู้ต้องหาหรือไม่ (มีคลิป)

ชัดเจน! ฟังรองอธิบดีอัยการวิเคราะห์คดี7โจ๋ฆ่าชายพิการ บทสรุปว่าตร.ช่วยผู้ต้องหาหรือไม่ (คลิป) ยังคงเป็นประเด็นที่คนไทยให้ความสนใจกันอย่างมาก กับเรื่องหนุ่มวัยรุ่น 6 คน ทำร้ายชายพิการจนเสียชีวิต และยังคงติดตามกันต่อไปว่าจุดจบของหนุ่มโจ๋ 6 คนนั้นจะเป็นเช่นไร ล่าสุดนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงการดำเนินคดีทางกฎหมาย คดีดังกล่าว ว่า มี2 รูปแบบ คือ มีเจตนาฆ่าให้ตาย เช่น เอาอาวุธปืนไปยิงเขาตาย อันนี้เจตนาฆ่าแน่นอน หรือ การเอามีดไปแทงคนตายต้องดูว่า แทงตรงไหน ใช้มีดเล็กหรือมีดใหญ่แทง ลักษณะมีดเป็นอย่างไร ทั้งนี การไตร่ตรองไว้ก่อน หมายถึง คบคิดวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน ที่ผ่านมา ถ้าถามว่า ตร.เข้าไปช่วยแก๊งนี้หรือไม่ ผมตอบได้ว่า คดีนี้ตำรวจช่วย แต่เป็นช่วยหาข้อเท็จจริงของคดี ไม่ใช่ช่วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ต้องการให้คดีจบอย่างยุติธรรม ส่วนกรณีที่ทนายความฝ่ายโจทก์ ระบุว่า การที่มีการโทรศัพท์ไปเรียกพวกออกมาทำร้ายชายพิการ ถือเป็นการไตร่ตรอง หรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่า ยังไม่ใช่การไตร่ตรองไว้ก่อน แต่แบบนี้เรียกว่า ชวนกันมาฆ่า ไม่ได้คบคิดวางแผนกันมาก่อน ฉะนั้นยังไม่เข้าข้อกฎหมายมีการไตร่ตรองซึ่งมีระวางโทษหนักถึงประหารชีวิต รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวต่อว่า ประเด็นที่สอง คือถ้าพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาผู้ต้องหาไม่ครบ อัยการสามารถให้ตร.กลับไปให้สวบสวนเพิ่มเติมได้ ถ้าเห็นว่า ตร.แจ้งข้อหาผู้ต้องหาไม่ครบก็สามารถให้กลับไปแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ เอาอย่างนี้ ถ้าเป็นปืนมายิงเป็นการไตร่ตรองแน่ แต่ถ้าใช้มีดต้องมาดูว่าไตร่ตรองหรือไม่ แต่เจตนาฆ่าแน่นอน เพราะถ้าม่ข้อหาไตร่ตรองฆ่า ด้วยศาลสามารถลงโทษได้ถึงขั้นประหารชีวิต ส่วนด้านจำเลยนั้น เหตุการบรรเทาโทษ จะอ้างเรื่องเมาสุราไม่ได้ กฎหมายไม่ยอมรับ แต่ถ้าสารภาพยอมรับว่า เป็นคนเอามีดฟันจนเสียชีวิตจริง ศาลอาจจะลดโทษได้จากโทษประหารชีวิต เหลือจำคุกตลอดชีวิต หรือ จำคุก 50 ปี เหลือ 25 ปี เพราะให้การเป็นประโยชน์ มีเหตุบรรเทาโทษให้   ขณะที่ประเด็นที่น่าสนใจอีกอัน ก็คือ ถ้าเข้าเป็นกรณีสมัครใจทะเลาะวิวาท ทนายความฝ่ายโจทก์จะมาเป็นผู้ร่วมฟ้องกับอัยการไม่ได้ cr:http://www.topicza.com/news1836.html